Giffarine by นวพร
ช้อปเมื่อไรก็ได้ พร้อมสิทธิมากมาย
กิฟฟารีน ออนไลน์
ที่นี่...เราเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน
โทร. 0816892160
ไลน์ ไอดี: noonavaporn

  0 Cart
SKIN CARE

สกินแคร์มีความสำคัญ เรื่องใกล้ตัว....
          ความหมายของ Skincare (สกินแคร์) คือ สิ่งที่บำรุงดูแลสภาพผิวของเราให้ดีขึ้น ดูมีสุขภาพดี น่าดึงดูด 
ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกาย แต่ถ้าจะเอาให้ลึกซึ้งกว่านั้นอีกก็ต้องบอกว่าสกินแคร์ถือว่าเป็นเครื่องสำอางอย่างนึง 
การเลือกใช้ สกินแคร์ Skincare ที่เหมาะกับตัวเองเพื่อผลลัพธ์ให้ผิวดูกระจ่างใสสุขภาพดี เรื่องใกล้ตัว

6 ลักษณะผิวสุขภาพดีที่ทุกคนควรมี และวิธีได้มา
ลักษณะผิวสุขภาพดีที่ทุกคนควรมี จะมีลักษณะอย่างไร? เราอาจจะคุ้นเคยกันดีกับคำว่า 
ผิวกระจ่างใส ผิวขาวมีออร่า แต่รู้ไหมว่า สิ่งที่สำคัญมากกว่าสิ่งเหล่านี้ก็คือ การมีผิวสุขภาพดี 
อย่างไรก็ตามคนส่วนใหญ่ไม่รู้ว่าอะไรคือสัญญาณที่บ่งบอกว่าเรามีผิวอ่อนแอหรือผิวแข็งแรง

1. ผิวเรียบเนียน
ผิวสุขภาพดีนั้นไม่ว่าจะมองด้วยตา หรือสัมผัสด้วยมือก็รู้จะสึกว่าเรียบเนียน ไม่มีรอยตะปุ่มตะป่ำ 
ผิวที่เรียบเนียนนั้นจะทำให้ผิวดูมีประกาย หรือผิวโกลวนั่นเอง กลับกันผิวที่อ่อนแอจะมีรอยตะปุ่มตะป่ำ, 
สิว, ริ้วรอยเหี่ยวย่น และรอยแผลเป็น

2. ผิวมีความชุ่มชื้นตามธรรมชาติ
ผิวสุขภาพดีจะดูชุ่มชื้นตลอดเวลา เพราะโดยธรรมชาติแล้วผิวสุขภาพดีจะสามารถ
สร้างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ได้เองภายใต้ชั้นผิว เป็นมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่บำรุงจากภายใน 
ต่างกับการทามอยส์เจอร์ไรเซอร์ลงไปเคลือบผิว กลับกันผิวอ่อนแอขาดความชุ่มชื้นจะหยาบ 
และแห้งเป็นขุย

3. สีผิวสม่ำเสมอ ไม่มีจุดด่างดำ
สีผิวที่สม่ำเสมอเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่บอกว่าเรามีผิวแข็งแรง สุขภาพดีหรือไม่ ในกรณีที่ผิวเรามีจุดดำ 
จุดแดง และสีผิวที่ไม่เท่ากัน นั่นเป็นสัญญาณบอกว่าผิวเราอ่อนแอ

4. มี Skin Barrier ที่แข็งแรง  Skin Barrier คือกำแพงปกป้องศัตรูผิว
Skin Barrier เป็นเซลล์ที่ประกอบไปด้วยไขมันที่อยู่ชั้นบนสุดของผิว และทำหน้าที่เป็นปราการด่านแรก
ในการป้องกันไม่ให้สิ่งสกปรก หรือสิ่งแปลกปลอมหลุดเข้ามาในชั้นผิวเรา ถ้าพูดเปรียบเทียบให้เข้าใจง่าย
มากขึ้นก็คือ Skin Barrier เปรียบเสมือนกำแพง เซลล์ผิวหนังเปรียบเสมือนก้อนอิฐที่ก่อตัวกันขึ้น
เป็นกำแพงที่แข็งแรง โดยมีไขมันและมอยส์เจอร์ไรเซอร์ทำหน้าที่เหมือนปูน คอยเชื่อมเซลล์ผิวไม่ให้
หลุดออกจากกัน หนึ่งในสิ่งสำคัญที่สุดของการมีผิวสุขภาพดี คือการมี Skin Barrier ที่แข็งแรง 
เพราะ Skin barrierคือปราการปกป้องผิวจากสิ่งแปลกปลอมภายนอก และช่วยรักษาความชุ่มชื้นจากภายใน 
อย่างไรก็ตามการล้างหน้าและใช้ Skin care ที่รุนแรง ทำให้ Skin Barrier เสียหาย และไม่สามารถทำหน้าที่ได้อย่าง
สมบูรณ์ ส่งผลให้ปัญหาผิวต่างๆไม่ว่าจะเป็นสิวหน้ามัน รอยแดง ผื่นคันแพ้ง่าย ยากที่จะรักษาให้หายขาด 
และกลับมาเป็นอยู่บ่อยๆ

5. ผิวกระชับเต่งตึง
อีกหนึ่งปัจจัยที่บอกว่าเรามีผิวสุขภาพดีหรือไม่คือ การมีผิวที่กระชับเต่งตึง ปราศจากริ้วรอย 
ซึ่งมาจากการที่ร่างกายสามารถสร้างคอลาเจน และอีลาสตินตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตามผิว
แต่ละคนสร้างคอลลาเจนได้ไม่เท่ากัน และจะเห็นได้ว่าผิวที่ดูไม่ดีนั้นคือผิวที่ไม่สามารถสร้าง
เส้นใยคอลลาเจนได้เพียงพอ ส่งผลให้เหี่ยว ย่น และดูหย่อนคล้อย

6. ปราศจากปัญหาผิวเรื้อรัง
ผิวสุขภาพดี คือผิวที่ไม่มีปัญหา ไม่ว่าจะเป็นสิว ผด ผื่นแดง กลับกันผิวที่อ่อนแอจะง่ายต่อการเกิด
ปัญหาผิว และกลับมาเป็นซ้ำอยู่เรื่อยๆ

ทำอย่างไรผิวถึงแข็งแรง สุขภาพดี
1. ใช้ผลิตภัณฑ์ล้างหน้าที่มีความอ่อนโยนต่อผิว
เพราะผลิตภัณฑ์ล้างหน้าแรงๆ จะทำให้ผิวเราสูญเสียมอยส์เจอร์ไรเซอร์ที่จำเป็นไป ทำให้ผิวแห้ง 
หยาบกร้าน ขาดความชุ่มชื้น และอาจทำให้ผิวระคายเคืองได้อีกด้วย

2. หลีกเลี่ยงการใช้ครีมบำรุงที่มีส่วนผสมของน้ำหอมและแอลกอฮอล์
เพราะสิ่งพวกนี้ทำให้ผิวเกิดการระคายเคือง และอ่อนแอแพ้ง่าย

3. มองหาผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่สร้างมาเพื่อผิวสุขภาพดีโดยเฉพาะ
และต้องได้ผลลัพธ์ดังต่อไปนี้

ผิวเรียบเนียน สัมผัสนุ่ม
กระตุ้นให้ผิวสร้างมอยส์เจอร์ไรเซอร์ตามธรรมชาติได้เอง
ปรับสีผิวให้สม่ำเสมอ ลดเลือนจุดด่างดำ
ฟื้นฟูและซ่อมแซม Skin Barrier
กระตุ้นการสร้างเส้นใยคอลลาเจนและอิลาสตินให้ผิวเต่งตึง
เป็น Anti-oxidant ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระที่ทำร้ายผิว

4. ปกป้องผิวจากการถูกทำร้ายจากแสง UV
แสง UV เป็นต้นเหตุที่ทำให้ผิวอ่อนแอ และก่อให้เกิดอนุมูลอิสระ ซึ่งสามารถป้องกัน
ได้ด้วยการทาครีมกันแดดที่ป้องกันได้ทั้งรังสี UVA และ UVB มีทั้งค่า SPF และ PA 
นอกจากนี้ ให้พยายามหลีกเลี่ยงการเจอแสงแดดโดยตรง

รู้อย่างนี้แล้ว หากอยากมีผิวกระจ่างใส เรียบเนียน ห่างไกลจากริ้วรอย ก็ควรเริ่มจากการทำ
ให้ผิวให้แข็งแรง สุขภาพดีกันก่อนดีกว่า เพราะการมีผิวสุขภาพดี คือจุดเริ่มต้นของการมี
ผิวสวยอย่างแท้จริงในทุกๆ ด้าน


                 Skincare (สกินแคร์) ถ้าจะแปลตรงตัวเลยก็คือ สิ่งที่บำรุงดูแลสภาพผิวของเราให้ดีขึ้น ดูมีสุขภาพดี น่าดึงดูด 
ไม่ว่าจะเป็นผิวหน้าหรือผิวกาย แต่ถ้าจะเอาให้ลึกซึ้งกว่านั้นอีกก็ต้องบอกว่าสกินแคร์ถือว่า เป็นเครื่องสำอางอย่างนึง
หลังจากเช็คสภาพผิวตัวเองแล้วก็ต้องมารู้จักกับประเภทสกินแคร์สำหรับผิวแต่ละประเภท 
เพื่อเลือกสกินแคร์ที่ ‘ใช่’ ที่สุดสำหรับคุณกันเลย
การเลือก SKIN Care ให้เหมาะสมกับสภาพผิว
เนื้อครีม (Cream) –
สกินแคร์เนื้อครีม เป็นประเภทที่ทุกคนน่าจะคุ้นเคยมากที่สุด มีเนื้อสัมผัสเข้มข้นสุด 
ใช้เวลานานกว่าจะซึมเข้าผิว เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้ำมันและน้ำผสมกันอยู่ 
จึงให้ความชุ่มชื้นมาก เหมาะกับคนที่มีผิวแห้งหรือผิวธรรมดา สำหรับผิวผสมให้เลือกทา
เฉพาะบริเวณใบหน้าที่มีผิวแห้ง
 – เนื้อโลชั่น (Lotion) –
นอกจากโลชั่นบำรุงผิวกายแล้วยังมีโลชั่นสำหรับผิวบำรุงผิวหน้าอีกด้วย บางแบรนด์อาจ
เรียกเนื้อผลิตภัณฑ์นี้ว่า ฟลูอิด (Fluid) ความเข้มข้นรองลงมาจากเนื้อครีม สัมผัสเหลวกว่า 
เนื่องจากมีส่วนประกอบของน้ำจะมากกว่าในเนื้อครีม จึงไม่ทำให้ผิวมันจนเกินไป 
เหมาะกับคนสภาพผิวธรรมดาและผิวผสม
 – เจล (Gel) –
เจลจะมีเนื้อสัมผัสบางเบา ไม่เหนอะหนะ รู้สึกเย็นเวลาเจลสัมผัสลงผิว เพราะมีส่วนประกอบของน้ำ
เป็นหลัก ในขณะที่มีส่วนประกอบของน้ำมันน้อยหรือไม่มีอยู่เลย เป็น Oil-free แต่ไม่ค่อยให้ความชุ่มชื้น 
จึงเหมาะกับคนผิวมัน หรือคนผิวแพ้ง่าย
 เซรั่ม (Serum)  –
เซรั่ม มีเนื้อสัมผัสบางเบา ซึมเข้าสู่ผิวง่าย เป็น Oil-Based มีความเข้มข้นของตัว active ingredients มาก 
จึงบำรุงผิวได้อย่างล้ำลึกถึงผิวชั้นใน เหมาะกับคนผิวแห้งจนถึงผิวผสมที่อยากฟื้นฟูสภาพผิวแบบเร็วๆ 
แต่ควรจะใช้คู่กับเนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดอื่น เช่น ครีมหรือเจล เพื่อบำรุงผิวชั้นนอกด้วย
 – เอสเซนส์ (Essence) –
เอสเซนส์เป็นตัวบำรุงผิวชั้นในเช่นเดียวกับเซรั่ม จึงต้องเลือกใช้ตัวเพียงตัวเดียว มีลักษณะเป็นเนื้อเจลใสๆ 
เพราะเป็น Water-Based จึงทำให้เอสเซนส์ซึมเข้าสู่ผิวเร็วมาก ไม่เหนอะหนะผิว บางแบรนด์ที่เรียกผลิตภัณฑ์ว่า
 น้ำตบ ก็คือ เนื้อผลิตภัณฑ์ชนิดนี้ครับ เหมาะกับคนผิวผสมจนถึงผิวมันและผิวบอบบาง แพ้ง่าย

เลือกกันแดด สำคัญผิวหน้าสวย
เรื่องสำคัญมาก ทุกสภาพผิว


    ➤ ผิวแห้ง คือ ลักษณะของผิวที่ไม่มีความมันเกาะตัวอยู่บนชั้นผิว 
สังเกตได้จากความรู้สึกแห้งตึงผิวหลังล้างหน้า ซึ่งสาเหตุเกิดได้หลายปัจจัย
 มักสร้างปัญหาให้กับทุกคนได้อยู่เสมอ เนื่องจากสภาพผิวจะมีความแห้งกร้าน แตกลอกเป็นขุย 
หรือเป็นแผ่นออกมาชัดเจนจนสังเกตได้ และมักนำไปสู่ปัญหาอื่น ๆ ตามมา เช่น ความไม่เรียบเนียน 
สีผิวไม่สม่ำเสมอ หรือบางคนเมื่อผิวลอกมาก ๆ มักมีแนวโน้มเกิดอาการแสบ ระคายเคือง 
เมื่อเผชิญกับปัจจัยต่าง ๆ ที่รายล้อมอยู่รอบตัว ด้วยเหตุนี้การดูแลผิวแห้งจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ๆ.
วิธีการดูแลรักษา ผิวแห้ง
  คนที่มีปัญหาผิวแห้ง เป็นขุย เกิดกับผิวพรรณของตนเอง แนะนำให้เริ่มต้นรักษาด้วยการดูแลจาก
ภายในนั้นคือ อาหารที่ทานเข้าไป เน้นทานอาหารที่มีโอเมกา-3 เยอะ ๆ เนื่องจากสารอาหารชนิดนี้
จะเพิ่มปริมาณชั้นน้ำมันในผิวให้หล่อเลี่ยงได้อย่างเพียงพอ อาหารยอดฮิตที่อุดมไปด้วยโอเมกา-3 
เช่น ปลาแซลมอน, น้ำมันดอกคำฝอย, ปลาซาร์ดีน, ลูกวอลนัท รวมถึงควรทานอาหารที่มีวิตามินซีสูง ๆ 
ด้วย เพราะนี่คือสารอาหารสำคัญในการเสริมสร้างคอลลาเจนในชั้นผิวหนังให้กับร่างกาย 
เมื่อมีคอลลาเจนเพียงพอ ผิวหนังของทุกคนก็จะเกิดความชุ่มชื้น ไม่แห้งกร้าน ดูอิ่มน้ำมากขึ้น 
ซึ่งวิตามินซีส่วนใหญ่จะอยู่ในผลไม้รสเปรี้ยว เช่น ส้ม, ผลไม้ตระกูลเบอร์รี่ ปิดท้ายด้วยการดื่มน้ำสะอาด
ต่อวันให้เพียงพออย่างน้อย 6-8 แก้ว จะทำให้ผิวหนังอวบอิ่ม แถมยังได้สุขภาพที่ดีอีกด้วย

➤ ผิวมัน 
   เกิดจากร่างกายของคนเรามักมีกลไกผลิตน้ำมันออกมาเพื่อป้องกันไม่ให้ผิวนั้นแห้ง เพื่อช่วยควบคุมสภาพผิวไม่ให้แห้งกร้านจากมลภาวะต่างๆ แต่ในบางครั้งกลับผลิตออกมามากเกิน ความจำเป็น กลายเป็นหน้ามันเยิ้มอย่างที่เห็น ผลเสียคือ ผิวหมองคล้ำ มีรูขุมขนกว้าง รอยดำจากสิวชัด 
แต่งหน้าไม่ติด และมักมันมากในบริเวณ T zone ของใบหน้า สังเกตุได้จากช่วง T zone นี้ค่อนข้างจะมันมากกว่าบริเวณอื่นๆ เพราะต่อมไขมันที่แทรกตัวอยู่ตามรูขุมขนใต้ชั้นผิวจะมีอยู่แล้วในส่วนนี้ แต่จะมีมากมีน้อยก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยและสภาพแวดล้อมรอบตัวที่ทำให้ต่อมไขมันจะผลิตออกมาแค่ไหน 
ซึ่งเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้ แต่สามารถดูแลรักษาได้เองง่ายๆ  

    การดูแลผิวมัน
ผิวมันที่เกิดขึ้น มาจากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม ฮอร์โมนเปลี่ยนแปลง อารมณ์ ความเครียด อากาศ สภาพแวดล้อม การสัมผัส การใช้ผลิตภัณฑ์เกินความจำเป็นต่อผิว รวมถึงพฤติกรรมที่เรา ทำให้มันเกิดขึ้นเอง งั้นเรามาดูวิธีดูแลผิวอย่างไรไม่ให้ผิวเสียที่เกิดจากความมัน พร้อมปรับสมดุลของผิวมัน
ให้ดีขึ้นกันดีกว่า

- ล้างหน้าให้สะอาด โดยใช้ผลิตภัณฑ์ที่อ่อนโยน ลดหน้ามัน ในการชะล้างสิ่งสกปรกที่อุดตัน  ตามรูขุมขนออก ล้างหน้าโดยใช้นิ้ววนเป็นวงกลมให้ทั่วใบหน้าเป็นเวลา 1 นาที จะสังเกตได้ว่า  หน้าสะอาด แถมยังเป็นการกระตุ้นให้เลือดไหลเวียนได้ดีอีกด้วย

- แผ่นซับหน้ามัน ใช้ซับความมันส่วนเกินระหว่างวัน ที่ต่อมไขมันขับออกมาจากรูขุมขน   แต่ไม่แนะนำให้ซับบ่อยๆ เพราะทำให้รูขุมขนกว้างได้ และไม่ควรซับหน้าแรงๆเพราะอาจ  ทำให้ใบหน้าเกิดริ้วรอยได้

- เลือกทานผัก ผลไม้ อาหารที่มีสารสำคัญให้เพียงพอต่อร่างกาย เช่น วิตามินเอ จาก แครอท   แคนตาลูป ผักโขม และวิตามินบี 2 จากถั่ว ธัญพืชไม่ขัดสี สารอาหารเหล่านี้มีส่วนช่วยในการยับยั้ง  การผลิตไขมัน หากทานเป็นประจำ หน้าที่มันๆก็ลดลงได้

- ใช้ผลิตภัณฑ์ที่บำรุงผิวสำหรับผิวมัน เนื้อบางเบา ซึมเข้าสู่ชั้นผิวได้ง่าย หรือพวก oil free   เพื่อเป็นการไม่เพิ่มความมันเข้าสู่ใบหน้า เพราะจะทำให้ผิวมันเยิ้มกว่าเดิม

- ใช้โทนเนอร์หลังล้างหน้า เป็นการปรับสมดุลผิวให้พร้อมรับสกินแคร์บำรุงผิวในขั้นตอนต่อไป  ให้ซึมสู่ผิวได้อย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว แถมรูขุมยังกระชับขึ้น

- เพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิวด้วยการมาร์คหน้าด้วยแผ่นมาร์คหรือสมุนไพรช่วยเรื่องลดความมัน   ที่สามารถหาสูตรง่ายๆทำเองได้ที่บ้าน

- ออกกำลังกายให้ร่างกายได้ขจัดไขมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกออกจากผิว ทำให้ผิวสะอาดมากยิ่งขึ้น  พร้อมยังช่วยปรับสมดุลของฮอร์โมนในร่างกายของเราได้อีกด้วย

- ควรพักผ่อนให้เพียงพอ เพราะการนอนน้อย นอนไม่พอ สามารถทำให้หน้ามันได้

- ดื่มน้ำสะอาดให้มากๆ น้ำเป็นตัวช่วยที่ดีในทุกๆเรื่อง การดื่มน้ำมากๆ ทำให้ผิวชุ่มชื้น เสมือนการเติมน้ำให้ผิว   พอผิวชุ่มชื่นมากพอ ต่อมไขมันก็จะไม่ผลิตน้ำมันมาเพื่อช่วยเรื่องผิวแห้งนั่นเอง


  ผิวธรรมดา
    ผิวธรรมดาเป็นสภาพผิวที่ดีที่สุดเนื่องจากผิวจะเนียน นุ่ม ยืดหยุ่น มีสุขภาพดี ฟื้นสภาพได้เร็วทั้งยังมีน้ำมันและความชื้นมาก ผิวที่มีสุขภาพดีซึ่งจะมีสภาพความเป็นกรดอ่อนๆ ด้วยค่า pH 5.5 ที่บริเวณเกราะคุ้มกันผิวตามธรรมชาติ บริเวณชั้นบนสุดของผิวจะเป็นเสมือนเกราะคุ้มกันผิว ทำหน้าที่ป้องกันการสูญเสียน้ำ ป้องกันเชื้อโรค และผลกระทบจากสิ่งแวดล้อมผลิตภัณฑ์ประเภทเวชสำอางที่มีค่า pH 5.5 มีส่วนช่วยรักษาสภาพความเป็นกรดอ่อนๆ 
ของผิวในการเสริมสร้างความสมดุลที่ดีของไขมันและความชุ่มชื่นของผิวหนัง

  ผิวผสม
      ใบหน้าเป็นเพียงบริเวณเดียวของร่างกายที่มีผิวผสม กล่าวคือบางบริเวณผิวจะแห้งนขณะที่บริเวณอื่นๆ จะมีผิวธรรมดาหรือผิวมัน ลักษณะบ่งชี้โดยทั่วไปของผิวผสมคือผิวบริเวณ “ทีโซน” (หน้าผาก จมูก และคาง) จะมีความมันมากกว่าปกติ ส่วนผิวบริเวณดวงตา และแก้มผิวจะแห้ง

  ผิวมัน
     เนื่องจากผิวมันผลิตไขมันที่บริเวณผิวหนังออกมามากเกินไป ผิวมันจึงมีสารคัดหลั่งที่เป็นไขมันจำนวนมาก ส่งผลให้ผิวดูมัน รูขุมขนเปิดกว้าง 
และมีแนวโน้มที่จะเกิดรอยดำและสิว ผิวประเภทนี้ต้องการการทำความสะอาดที่หมดจดแต่อ่อนโยน ผลิตภัณฑ์เวชสำอางสามารถลดรอยด่างดำและสิวลงได้ 
ส่วนครีมที่มีน้ำมันเป็นส่วนผสมมากไม่เหมาะสำหรับผิวประเภทนี้

  ผิวแห้ง
    ผิวแห้งเป็นผิวที่แพ้ง่าย หยาบ ตึง คัน แดง และลอกเป็นขุยได้ง่าย ผิวประเภทนี้ต้องการความชุ่มชื่นมาก อีกทั้งยังต้องการส่วนผสมของน้ำมันจากผลิตภัณฑ์บำรุงผิวเวลาที่ผิวประเภทนี้แห้งตึงมากจะเกิดอาการระคายเคือง ซึ่งอาการดังกล่าวสามารถป้องกันได้ด้วยการใช้ผลิตภัณฑ์เวชสำอาง ผิวประเภทนี้ต้องการการทำความสะอาดอย่างอ่อนโยนและการดูแลอย่างใส่ใจสม่ำเสมอเพื่อชดเชยการสูญเสียน้ำมันและความชุ่มชื่นตามธรรมชาติ

    ผิวบอบบาง หรือผิวแพ้ง่าย
  ผิวแพ้ง่ายและอาการระคายเคืองเกิดขึ้นได้จากหลายๆสาเหตุและเกิดขึ้นได้ทุกช่วงอายุ เพราะเกิดจากเกราะปกป้องผิวอ่อนแอ ทำให้ผิวเกิดอาการระคายเคืองได้ง่ายเพราะต้องโดนปัจจัยภายนอกเช่น ฝุ่น สารเคมี หรือแบคทีเรีย เข้ามาทำให้เกิดอาการแพ้และระคายเคือง ฉะนั้นจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่งที่เราจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า “ผิวแพ้ง่าย” ไม่ใช่สิ่งที่ผิดปกติหรือเป็นโรคทางผิวหนังแต่อย่างใด ถึงแม้ว่าจะไม่มีวิธีการแก้หรือรักษาผิวแพ้ง่าย แต่โชคดีที่เรายังมีวิธีที่ควบคุมและจัดการกับอาการผิวแพ้ง่ายได้ ถ้าหากเข้าใจสาเหตุของปัญหาว่าเกิดขึ้นจากอะไร อะไรเป็นปัจจัยที่กระตุ้นให้เกิดอาการแพ้ ก็จะช่วยให้เราสามารถควบคุมอาการผิวผิวแพ้ง่ายได้ดียิ่งขึ้น

สกินแคร์คร่าว ๆ กันแล้ว มาดูเนื้อสัมผัสกันบ้างดีกว่าว่าทั้งหมดมีอะไรบ้าง! 
        1. Powders (ผงแป้ง)
               เนื้อแบบนี้จะมี 2 แบบ คือ...
               แป้งฝุ่น (Loose Powder) ไม่ว่าจะเป็นแป้งเด็ก หรือแป้งที่เอาไว้ปัดแต่งหน้าควบคุมความมันอย่าง Translucent Powder ก็จัดเป็นประเภทนี้หมดค่ะ
               แป้งอัดแข็งหรือแป้งตลับ (Compact Powder) ที่ทำโดยใช้แป้งฝุ่นมาอัดแน่นลงในตลับด้วยน้ำมันเพื่อให้พกพาง่าย ใช้สะดวก แถมแป้งแบบนี้ยังมักใส่เม็ดสีเพื่อปรับสภาพผิวของเราให้ดูสว่างใส และช่วยปกปิดจุดบกพร่องต่าง ๆ บนใบหน้าได้อย่างดีอีกด้วย
          2. Gels (เจล)
               สำหรับเนื้อเจลก็มี 2 แบบเช่นกันค่ะ คือแบบที่เป็น...
               เจลเนื้อน้ำ (Hydrogel) พบเห็นได้ทั่วไปเลย ส่วนใหญ่จะเป็นเจลแบบนี้ คือทาแล้วแตกตัวเป็นน้ำซึมเข้าผิวไปเลย จริง ๆ แล้วเจลแบบนี้ยังแบ่งได้ตามส่วนประกอบอีก คือถ้ามีน้ำเป็นองค์ประกอบจะเป็น Aqueous Gel และถ้ามีแอลกอฮอล์เป็นองค์ประกอบ จะเป็น Hydroalcoholic Gel ค่ะ
               เจลเนื้อน้ำมัน (Oleogel) ซึ่งสกินแคร์เทรนด์ใหม่อย่าง Capsule ผสมสดให้ความชุ่มชื้นมากกว่าปกติหลายเท่า ส่วนใหญ่ก็จะเป็นแบบเจลเนื้อน้ำมันนี่เองค่ะ
          3. Solutions (โซลูชั่น) 
               โซลูชั่นแบบน้ำ (Aqueous Solution) อย่างพวกโทนเนอร์ เอสเซนส์ต่าง ๆ รวมถึงแอมพูล (Ampoules) และ บูสเตอร์ (Boosters) และสกินแคร์แบบแผ่น (Skincare Pads) ก็จัดอยู่ในประเภทนี้เช่นเดียวกัน
               โซลูชั่นแบบน้ำมัน (Oily Solution) พวกคลีนซิ่งออยล์ น้ำมันบำรุงผิวต่าง ๆ ก็จัดอยู่ในหมวดหมู่นี้ค่ะ
               โซลูชั่นแบบแอลกอฮอล์ (Hydroalcoholic Solution) แบบนี้เห็นได้บ่อย ๆ เลย เช่น โทนเนอร์สูตรสำหรับผิวมัน น้ำหอม เป็นต้น
          4. Ointments (เนื้อบาล์ม)
               ตัวนี้พบเห็นได้ทั่วไป อย่างเช่น บาล์มบำรุงให้ความชุ่มชื้นผิว หรือขี้ผึ้ง วาสลีน ลิปแคร์ ซึ่งเนื้อบาล์มแบบนี้มักจะใส่คุณประโยชน์มาให้ผิวค่อนข้างเยอะ เช่น รักษาบาดแผล ให้ความชุ่มชื้น ลดการอักเสบของผิว รวมไปถึงช่วยทำความสะอาดผิวอย่างคลีนซิ่งบาล์มด้วยค่ะ 
          5. Sticks (เนื้อแบบแท่ง)
               แบบที่เห็นมานานก็จะเป็นพวกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายต่าง ๆ รวมไปถึงลิปสติก สกินแคร์แบบแท่งนี้ มีขึ้นมาเพื่อให้สะดวกและง่ายต่อการใช้อย่างตัวใหม่ ๆ ก็เช่น อายครีมแบบแท่ง กันแดดแบบแท่ง ที่สามารถทาได้ทุกที เติมได้ทุกเวลา ถือเป็นสกินแคร์อีกหนึ่งแบบที่น่าจับตามอง
          6. Emultions (อีมัลชั่น)
 ตัวนี้คุ้นหูคุ้นตามากที่สุดและเรียกได้ว่ามีมากที่สุดในวงการสกินแคร์เลยทีเดียว เพราะว่าอีมัลชั่นนี้คือสิ่งที่ผสมระหว่างน้ำกับน้ำมัน จะต่างกันแค่ความเข้มข้นเท่านั้น โดยถ้าเนื้อเข้มข้นมาก ๆ ก็จะจัดเป็น "ครีม" แต่ถ้าความเข้มข้นน้อยหน่อย เกลี่ยง่าย ซึมไวขึ้น จะเป็นประเภท "โลชั่น" ค่ะ
          7. Suspensions (แขวนลอย)
               อันนี้อาจจะเข้าใจยากหน่อย แต่ถ้าพูดถึง แป้งน้ำ คาลาไมด์ ยาทาเล็บ รองพื้น จะพอเห็นภาพขึ้นมาทันที คือเนื้อแบบนี้จะเหมือนมีเม็ดของแข็งลอยอยู่ในของเหลว โดยที่ของแข็งนั้นไม่ได้ละลาย ทำให้เกิดการแยกชั้นได้ เวลาจะใช้จึงจำเป็นต้องเขย่าให้เข้ากันก่อนนั่นเอง
          8. Pastes (เนื้อสครับ)
               จริง ๆ คำนี้คนไทยอย่างเรา ๆ อาจจะไม่ชิน เนื้อแบบนี้จะคล้าย ๆ กับแขวนลอย แต่เนื้อข้นกว่า อย่างที่พบเห็นได้บ่อย ๆ ก็คือ ยาสีฟันและสครับมาสก์หน้าค่ะ
          9. Aerosols (สเปรย์)
               ตัวนี้มีความพิเศษกว่าตัวอื่น ๆ หน่อยตรงที่ จะเป็นเนื้อแบบเหลวหรือแบบแข็งก็ได้ ซึ่งส่วนใหญ่จะใช้เนื้อแบบอีมัลชั่น โซลูชั่น และผงแป้งมาอัดก๊าซเข้าไปในแพ็คเกจจิ้ง ทำให้เกิดแรงดัน เวลาฉีดออกมาก็จะเกิดเป็นฝอย แบบที่เราเรียกกันว่าสเปรย์ค่ะ ประเภทนี้จะเจอบ่อย ๆ ในพวกผลิตภัณฑ์ระงับกลิ่นกายและครีมโกนหนวดค่ะ
          10. Bar Soaps (สบู่ก้อน)
               ก็บอกแล้วว่าสกินแคร์คือทุกอย่างที่เกี่ยวกับผิว นับตั้งแต่ทำความสะอาด บำรุง และปกป้องผิว เพราะฉะนั้นสบู่ก้อนจึงเป็นอีกประเภทหนึ่งของสกินแคร์ไปโดยปริยายค่ะ แต่ที่เราเห็นกันนี้เขายังแบ่งแยกย่อยออกไปได้อีกถึง 3 ชนิด คือ
               สบู่ทั่วไป (Toilet Soap) ตัวนี้ก็คือสบู่อาบน้ำที่เราใช้กันปกติทั่วไปเลยค่ะ มีความเป็นด่างสูง (pH 9-10) ใช้แล้วรู้สึกสะอาดผิว
               สบู่ใส (Transparent Soap) ตัวนี้ทำขึ้นมาเพื่อให้ดูสวยงามขึ้น และอ่อนโยนขึ้นเพราะมีสารที่ให้ความชุ่มชื้นมากขึ้นนั่นเองค่ะ
               สบู่สังเคราะห์ (Syndet Soap) ตัวนี้เป็นตัวที่แพงที่สุด เพราะใช้ต้นทุนในการทำสูง แถมมี pH 5.5-7 ซึ่งเข้ากันได้ดีกับผิวด้วยนะ

มาเลือกส่วนผสมให้ตรงกับปัญหาผิวกัน!!
          จริง ๆ นอกจากเนื้อสัมผัสที่เราต้องคำนึงถึงแล้ว การเลือกส่วนผสมสำคัญ (Active Ingredients) ก็สำคัญไม่แพ้กัน มาดูกันดีกว่าว่าแต่ละตัวจะมีตัวไหนเด็ด ๆ ที่ต้องไปโดนกันบ้าง!

Moisturizer (ให้ความชุ่มชื้น)
          ให้มองหา : Hyaluronic Acid, Sodium PCA, Propylene Glycol, Ceramides, Ammonium Lactate และ Sorbitol
Whitening (ปรับผิวกระจ่างใส)
          ให้มองหา : Niacinamide, Alpha-Arbutin, Vitamin C, Kojic Acid และ Glycolic Acid
Anti-Aging (ลดเลือนริ้วรอย)
          ให้มองหา : Retinol, Peptides, Ceramides, Coenzyme Q10, Caffeine, Biotin, Green Tea Extract และ Tocopherol
Anti-Pollution (ปกป้องผิวจากมลภาวะ)
          ให้มองหา : Malachite, Activated Charcoal, Algae Extract, Sea Salt Minerals, Ginseng, Sumac, Gotu Kola และ Vitamin C
Antioxidants (ต่อต้านอนุมูลอิสระ)
          ให้มองหา : Green Tea Extract, Tocopherol, Lycopene, Caffeine, Resveratrol, Genistein, Vitamin C และ Grape Seed Extract
Anti-Acne (ลดสิว) 
          ให้มองหา : Benzoyl Peroxide, Salicylic Acid, Tea Tree Oil และ Retinoids
Anti-Inflamatory (ลดการอักเสบ)
          ให้มองหา : Chamomile, Witch Hazel, Aloe Vera, Licorice, Oatmeal, Ginger และ Turmeric (Curcumin)
Sunscreen (ปกป้องผิวจากแสงแดด)
          ให้มองหา : Resveratrol, Genistein, Zinc Oxide, Titanium Dioxide และ Mexoryl SX

 เลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว
ผิวมัน (Oily Skin)
         ลักษณะผิว : ผิวมัน เงา โดยเฉพาะบริเวณ T-ZONE คือ บริเวณหน้าผาก จมูก และคาง มีรูขุมขนกว้าง ที่เกิดจากต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากกว่าปกติ ทำให้มีปัญหาเรื่องสิวเสี้ยนและเป็นสิวได้ง่าย แต่ข้อดีของผิวแบบนี้ก็คือเกิดริ้วรอยช้ากว่าผิวแบบอื่น ๆ 
        เนื้อสัมผัสที่ใช่ : ผิวแบบนี้ต้องใช้เนื้อสัมผัสที่บางเบา ซึมง่ายอย่างเนื้อเจล โลชั่น และโซลูชั่นแบบน้ำค่ะ
        หลีกเลี่ยง : เนื้อสัมผัสแบบน้ำมันและบาล์ม เพราะจะไปเพิ่มความมันให้ผิวจนผิวเสียสมดุลมากยิ่งขึ้น
        ส่วนผสมต้องห้าม : ซิลิโคน เพราะจะทำให้เกิดการอุดตัน จนเกิดสิวในที่สุด อีกตัวคือ AHA ควรใช้เป็น BHA มากกว่า เพราะเขาละลายในน้ำมัน และยังสามารถแทรกซึมเข้าไปในชั้นผิวได้โดยที่ไม่ทำให้ผิวอุดตันด้วยค่ะ
ผิวแห้ง (Dry Skin)
          ลักษณะผิว : มีรูขุมขนที่ละเอียดแต่ผิวแห้งแตกง่าย ลอกเป็นขุยได้ง่าย โดยเฉพาะหลังล้างหน้าจะรู้สึกตึงและฝืดผิวหน้า บางครั้งก็มีอาการคัน แสบ แดง ระคายเคืองได้ง่าย และมักจะมีปัญหาเรื่องริ้วรอยก่อนวัยได้ง่ายกว่าผิวแบบอื่น 
          เนื้อสัมผัสที่ใช่ : ผิวแบบนี้ต้องเน้นเติมน้ำให้ผิว และปกป้องไม่ให้น้ำระเหยออกจากผิว ฉะนั้นควรเลือกเนื้อสัมผัสแบบบาล์มและโซลูชั่นแบบน้ำมันมาช่วยเคลือบผิวกักเก็บความชุ่มชื้นค่ะ
          หลีกเลี่ยง : เนื้อสัมผัสแบบสครับ สบู่ ด้วยนะ เพราะสครับจะขัดผิวให้บางขึ้น ทำให้เกิดผิวแห้งและริ้วรอยได้ ยิ่งผิวแห้งเกิดริ้วรอยง่ายอยู่แล้วต้องระวังมากขึ้น ในขณะที่สบู่ก็มีฤทธิ์เป็นด่างทำให้ผิวแห้งเข้าไปใหญ่ ลองเลือกใช้สบู่เหลวแทน อีกอย่างที่ไม่ควรใช้คือโซลูชั่นแบบน้ำ เพราะกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ในผิวได้ไม่พอนั่นเอง
          ส่วนผสมต้องห้าม : ไม่ควรใช้ผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ ซัลเฟต ที่ทำให้เกิดการระคายเคืองได้ รวมถึง BHA ที่ไม่เหมาะกับคนผิวแห้งเท่าไหร่ ลองใช้เป็น AHA ที่ช่วยเติมน้ำให้ผิวได้ด้วยจะเห็นผลกว่าค่ะ
          ผิวผสม (Combination Skin)
          ลักษณะผิว : ผิวแบบนี้เป็นผิวที่พบได้มากที่สุดในประเทศที่มีอากาศร้อน แถมเรียกได้ว่ามีปัญหาของสองสภาพผิวในเวลาเดียวกัน คือมีทั้งบริเวณที่ผิวแห้ง หรือ U-Zone (รอบดวงตา ข้างแก้มและคาง) ที่มักเกิดบริเวณแห้ง ลอก เป็นขุย ในขณะที่บริเวณผิวมัน หรือ T-Zone (หน้าผากและจมูก) ซึ่งจะมีต่อมผลิตไขมันที่มากกว่าบริเวณอื่น ๆ และเป็นส่วนที่เกิดสิวได้ง่ายนั่นเอง
          เนื้อสัมผัสที่ใช่ : จริง ๆ แล้วอยากให้เลือกใช้แบบของคนผิวมันตรงช่วง T-Zone และแบบคนผิวแห้งตรงช่วง U-Zone เพราะเป็นวิธีดูแลผิวที่ตรงจุดที่สุด แต่ถ้าใครขี้เกียจใช้หลายตัว ซับซ้อนก็ให้เลือกเป็นแบบอีมัลชั่นและโซลูชั่นแบบน้ำเข้าไว้ค่ะ Play Safe!
          หลีกเลี่ยง : ในฐานะที่มีส่วนผสมของผิวแห้งและผิวมันบนใบหน้า อะไรที่ผิวแห้งและผิวมันไม่ควรใช้ ผิวผสมก็ไม่ควรใช้เช่นกัน เช่น บาล์มต่าง ๆ เพราะอาจทำให้เกิดการอุดตันได้ รวมถึงสบู่ที่อาจทำให้เกิดอาการผิวแห้ง ระคายเคืองได้
          ส่วนผสมต้องห้าม : แอลกอฮอล์และซิลิโคน
          ผิวแพ้ง่าย (Sensitive Skin)
          ลักษณะผิว : ผิวบอบบางแพ้ง่ายแบบนี้ต้องใส่ใจเลือกสกินแคร์ที่สุด เพราะผิวไวต่อสารเคมี มลภาวะ แสงแดด ฝุ่นควันต่าง ๆ ผิวแบบนี้เป็นสิวง่าย เป็นผื่นง่าย อักเสบง่าย และบางครั้งอาจมีอาการแสบ แดง คัน ร่วมด้วย ต้องเฝ้าระวังมากเป็นพิเศษกว่าผิวแบบอื่น ๆ ค่ะ
          เนื้อสัมผัสที่ใช่ : เนื้อสัมผัสที่ใช่ที่สุดสำหรับผิวแบบนี้ขอแนะนำเป็น โซลูชั่นแบบน้ำเลยค่ะ แต่ต้องแน่ใจว่าไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ปนมาด้วยนะคะ ไม่งั้นจะยิ่งแพ้ไปกันใหญ่
          หลีกเลี่ยง : ไม่ควรใช้สครับ สบู่ และโซลูชั่นแบบแอลกอฮอล์ เพราะจะเป็นการไปรบกวนผิว และทำให้ผิวแห้ง แพ้ ระคายเคืองมากขึ้นด้วย
          ส่วนผสมต้องห้าม : หลีกเลี่ยงแอลกอฮอล์, น้ำหอม, พาราเบน, AHA, BHA รวมไปถึงสารระคายเคืองต่าง ๆ ที่จะทำให้เกิดอาการแพ้ได้

➣ ด้วยไลฟ์สไตล์ในชีวิตประจำวัน เจลมลภาวะทั้งแสงแดด,ฝุ่นควัน     มากมาย ไหนจะเจอกับความเครียดต่างๆ สะสม รวมทั้งอายุที่ เพิ่มขึ้น   ในทุกวัน

➣ เคล็ดลับ ดูแลผิวหน้า ให้ผิวชุ่มชื้น อิ่ม ฟู ดูฉ่ำน้ำ

   เริ่มจาก
 - การดื่มน้ำเปล่าๆเพื่อบำรุงผิวจากภายใน ตัวช่วยในการบำรุงผิวให้สวยใสจากภายใน
   อย่างน้อยดื่มน้ำวันละ 8 แก้ว ต่อวัน 

 - ผัก ผลไม้ ยิ่งกิน ยิ่งผิวสวย  

10 ขั้นตอนการลงสกินแคร์ให้ผิวใสแบบสาวเกาหลี

Step 1 Oil-Based Cleanser : ใช้น้ำมันดักจับสิ่งสกปรกต่าง ๆ เป็นขั้นตอนแรก พอเสร็จแล้วให้ล้างออกด้วยน้ำอุ่น

Step 2 Water-Based Cleanser : ใช้โฟมล้างหน้าทำความสะอาดอีกขั้นเพื่อความชัวร์ และเพิ่มความสดชื่นให้ผิว

Step 3 Exfoliator : ผลัดเซลล์ผิวเก่าที่เสื่อมสภาพไปแล้ว เผยผิวใหม่ที่สดใสขึ้น

Step 4 Toner : ปรับสภาพผิวให้พร้อมรับการบำรุง

Step 5 Essence : เริ่มจากบำรุงผิวด้วยสกินแคร์ตัวที่เนื้อบางเบาที่สุดก่อน

Step 6 Serums : เพื่อแก้ปัญหาผิวได้ตรงจุดยิ่งขึ้น อย่างเช่นเรื่องสิว รอยสิว ริ้วรอยร่องลึก หรือ จุดด่างดำ

Step 7 Sheet Masks : มาสก์บำรุงอย่างล้ำลึก เพื่อเก็บสารอาหารและความชุ่มชื้นไว้ในผิวให้ยาวนาน

Step 8 Eye Cream : บำรุงผิวบริเวณรอบดวงตาให้สดใส เพื่อให้สุขภาพดีไม่ดูแก่

Step 9 Moisturizer : ขั้นตอนเติมน้ำให้ผิว ให้ผิวอิ่มน้ำ มีน้ำมีนวล

Step 10 Sun Protection หรือ Sleeping Mask : ขั้นตอนปกป้องผิว ถ้าเป็นตอนกลางวันจะเป็นหน้าที่ของครีมกันแดด แต่ถ้ากลางคือเราจะใช้สลีปปิ้งมาสก์กักเก็บความชุ่มชื้นยาวนานตลอดคืนนั่นเองค่า

  ส่วนหนึ่งของ ผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน
เพื่อการปกป้อง ดูแลสุขภาพผิวของคุณ จาก แคตตาล็อก กิฟฟารีน
มิราเคิล ฟลูอิด เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์
   เติมน้ำ ให้ผิว ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว 

      เอสเซนส์เพื่อการปรนนิบัติดูแลผิวอย่างล้ำลึก ช่วยเติมความชุ่มชื่นคืนความสดใสเปล่งปลั่ง พร้อมกระชับรูขุมขนให้ผิวเรียบเนียน จากส่วนผสมทรงคุณค่าในการบำรุงผิว ทั้งสารสกัดจากทับทิม, สารสกัดจาก Witch Hazel, สารสกัดจากสาหร่ายสไปรูไลน่า และสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ อ่อนโยนต่อผิวด้วยสูตปราศจากแอลกอฮอล์ และน้ำหอม

วิธีใช้ :
    หลังจากล้างหน้า หยดเอสเซนส์ลงบนสำลี หรือหยดลงบนฝ่ามือเล็กน้อยลูบไล้เบาๆ ให้ทั่วใบหน้าละลำคอ



ไฮยา อินเทนซีฟ ไวท์เทนนิ่ง พรี-ซีรั่ม
แค่หยดทุกวัน ผิวก็ชุ่มน้ำ เนียนใสได้ทุกวัน
ซีรั่มสูตรเข้มข้น เนื้อบางเบา ช่วยปลอบประโลมผิวเป็นขั้นตอนแรก   ก่อนการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ทุกหยดอุดมด้วย
วิธีใช้ :
หยดซีรั่มประมาณ 1 หลอดหยด ลูบไล้ทั่วใบหน้าและลำคอ ก่อนการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ควรใช้เป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน


กิฟฟารีน ไฮยา ซุปเปอร์ คอนเซนเทรท ซีรั่ม
การันตี ผิว เด้ง อิ่มน้ำ เนียน ใส
ซีรั่ม สูตรเข้มข้นพิเศษ ที่สุดแห่งการบำรุงและปกป้องผิวจากสัญญานแห่งวัย


วิธีใช้ :
 ใช้ซีรั่มประมาณ 1 หลอด หรือตามปริมาณที่ต้องการ ทาให้ทั่วผิวหน้า ลำคอ 
 และบริเวณรอบดวงตาเป็นประจำทุกเช้าและก่อนนอน


แอสตาแซนธิน เอจ-ดีไฟอิ้ง เฟเชียล ครีม         คู่ไอเทม
ซุปเปอร์ วิตามิน อี ( Redesign)
คู่ไอเทม ผิวสวยเหนือกาลเวลา
◉ เรื่องริ้วรอยอย่ายอมแพ้
◉ Steps คู่ผิวสวย ดูแลผิวเป็นพิเศษด้วยคู่นี้


มัลติ โพรเทคทีฟ ซันสกรีน
เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++
SPF 50 PA++++
โดนแดดได้ ไม่กลัวดำด้วยนวัตกรรม

เนื้อน้ำนม บางเบา ซึมเร็ว เกลี่ยง่าย สบายผิว ไม่เป็นคราบไม่เยิ้มระหว่างวัน และไม่รบกวนการแต่งหน้า 
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
 ครีมล้างหน้า Facial Cleanger
ครีมเนื้อนุ่ม สูตร Oil-in-Water
เช็ดทำความสะอาดเครื่องสำอางและสิ่งสกปรกได้อย่างหมดจด พร้อมรักษาสมดุลของน้ำหล่อเลี้ยงผิวตามธรรมชาติด้วย Vitamin B5



เทนชิ ลูส พาวเดอร์ ทีแอลพี01   

เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว สวย ทั้งวัน

แป้งฝุ่นแต่งหน้า นวัตกรรมพิเศษจากประเทศญี่ปุ่น เนื้อบางเบา ให้สัมผัสนุ่มลื่น 
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว

   วิธีใช้
เกลี่ยแป้งฝุ่น หลังรองพื้น ผิวหน้า ผิวเรียบเนียน ทั้งวัน



กิฟฟารีน คอมแพ็ค ฟาวน์เดชั่น


     มอบการบำรุง คุมมัน แป้งเนียนสวยตลอดวัน
แป้งผสมรองพื้น กิฟฟารีน
ปริมาณสุทธิ : 14.00 กรัม
น้ำหนักรวม : 60.1 กรัม
จำนวน : 1 ตลับ

      เพราะผลิตภัณฑ์คุณภาพกิฟฟารีนมีมากกว่า 2,000 รายการ
      หากสนใจผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับเครื่องสำอางอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงไว้ในเว็บนี้ กรุณาติดต่อเรา...

คุณ นวพร
ไลน์ ไอดี noonavaporn
เบอร์โทร 0816892160

อินโนเวีย ฟลอเลส คอมแพ็ค พาวเดอร์ เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++
ผิวสวย มีออร่า บางเบา เนียนใส ทันใจ 2 นาที
 แป้งผสมรองพื้น เนื้อบางเบา เนียนนุ่ม ละเอียดดุจกำมะหยี่ 

วิธีใช้ :
ใช้พัพฟ์แตะเนื้อแป้งเพียงเล็กน้อย แล้วเกลี่ยให้ทั่วใบหน้า

เพราะผลิตภัณฑ์คุณภาพกิฟฟารีนมีมากกว่า 2,000 รายการ

หากสนใจผลิตภัณฑ์เกี่่ยวกับเครื่องสำอางอื่นๆ ที่ไม่ได้ลงไว้ในเว็บนี้ กรุณาติดต่อเรา...

คุณ นวพร

ไลน์ ไอดี noonavaporn

เบอร์โทร 0816892160


Giffarine by นวพร
ช้อปเมื่อไรก็ได้ พร้อมสิทธิมากมาย
กิฟฟารีน ออนไลน์ ที่นี่...เราเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน
สมัครสมาชิก กิฟฟารีน ออนไลน์
GIFFARINE
ที่นี่... เราเป็นเจ้าของธุรกิจร่วมกัน
Online Network Business Opportunity
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือแสดงความคิดเห็น


หากบทความนี้มีประโยชน์ โปรดแชร์
           
  BEST SELLER
กิฟฟารีน ไฮยา ซุปเปอร์ คอนเซนเทรท ซีรั่ม
การันตี ผิว เด้ง อิ่มน้ำ เนียน ใส
ซีรั่ม สูตรเข้มข้นพิเศษ ที่สุดแห่งการบำรุงและปกป้องผิวจากสัญญานแห่งวัย




กิฟฟารีน ไฮยา อินเทนซีฟไวส์เทนนิ่ง พรี- ซีรั่ม
แค่หยดทุกวัน ผิวก็ชุ่มน้ำ เนียนใสได้ทุกวัน
ซีรั่มสูตรเข้มข้น เนื้อบางเบา ช่วยปลอบประโลมผิวเป็นขั้นตอนแรก   ก่อนการบำรุงด้วยผลิตภัณฑ์บำรุงผิวอื่นๆ ทุกหยดอุดมด้วย
มัลติ โพรเทคทีฟ ซันสกรีน
เอสพีเอฟ 50+ พีเอ++++
SPF 50 PA++++
โดนแดดได้ ไม่กลัวดำด้วยนวัตกรรม

เนื้อน้ำนม บางเบา ซึมเร็ว เกลี่ยง่าย สบายผิว ไม่เป็นคราบไม่เยิ้มระหว่างวัน และไม่รบกวนการแต่งหน้า 
เหมาะสำหรับทุกสภาพผิว
มิราเคิล ฟลูอิด เฟเชียล ทรีทเมนท์ เอสเซนส์
   เติมน้ำ ให้ผิว ตอบโจทย์ทุกสภาพผิว 

      เอสเซนส์เพื่อการปรนนิบัติดูแลผิวอย่างล้ำลึก ช่วยเติมความชุ่มชื่นคืนความสดใสเปล่งปลั่ง พร้อมกระชับรูขุมขนให้ผิวเรียบเนียน จากส่วนผสมทรงคุณค่าในการบำรุงผิว ทั้งสารสกัดจากทับทิม, สารสกัดจาก Witch Hazel, สารสกัดจากสาหร่ายสไปรูไลน่า และสารสกัดจากดอกคาโมมายล์ อ่อนโยนต่อผิวด้วยสูตปราศจากแอลกอฮอล์ และน้ำหอม




◎ ถ้านี่คือสิ่งที่คุณมองหาจากการ "ทํางานผ่านเน็ต"

√ อยากมีชีวิตที่ดีขึ้นกว่าเดิม มีเงิน มีเวลา มีความสุขในการใช้ชีวิต

√ อยากมีอิสระในการทำงาน ไม่ต้องออกจากบ้าน ก็สามารถสร้างธุรกิจได้
  
√ โอกาสในการพิชิตความฝัน บ้าน รถยนต์ และอื่น ๆ ที่อยากจะทำในชีวิต

√ รายได้ที่มั่นคง แม้หยุดพัก-หยุดทำ แต่ก็ยังคงมีรายได้ไหลเข้ามาตลอด
  
√ อยากมีธุรกิจเป็นของตัวเอง ที่สามารถส่งต่อให้กับทายาทของเราได้


  ส่วนหนึ่งของ ผลิตภัณฑ์กิฟฟารีน
สินค้าขายดี จาก แคตตาล็อก กิฟฟารีน ทั้งหมดกว่า 2,000 รายการ
ผลิตภัณฑ์อาหารเสริมเพื่อสุขภาพและคุณภาพชีวิต


ผลิตภัณฑ์
เพื่อความงาม


ผลิตภัณฑ์
เครื่องสำอาง


ผลิตภัณฑ์
ของใช้ส่วนตัว


ผลิตภัณฑ์อาหารและเครื่องดื่ม


ผลิตภัณฑ์ของใช้
ในครัวเรือน



สถิติผู้เยี่ยมชม
วันนี้ 1
เมื่อวานนี้ 43
เดือนนี้ 1613
ทั้งหมด 97545

Copyright © TonBab Giffarine